"จิตสาธารณะ" เป็นเรื่องสำคัญระดับประเทศ ที่จะช่วยพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในเยาวชนไทย/คนไทยที่จะช่วยให้สังคมอยู่รอดได้....
การให้นักเรียนทำกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ เป็นความมุ่งหวังที่จะสร้าง “จิตสาธารณะ” และคุณลักษณะแฝงอื่น ๆ อีกมากมาย ผ่านกิจกรรมนี้
ในการสร้างจิตสาธารณะ คงมีหลายแนวทาง “สถานศึกษาจะต้องคิดกิจกรรม ที่มีความเป็นไปได้ ง่าย และสะดวกในการปฏิบัติ แต่ให้ผลดี” ต่อไปนี้ อาจเป็นเพียงตัวอย่างส่วนหนึ่งเพื่อการสร้างจิตสาธารณะแก่นักเรียน
1) ส่งเสริมให้เด็กมีความสามารถในการดูแลรักษาบ้าน และรับผิดชอบงานบ้าน ถือเป็นงานสาธารณะที่ใกล้ตัวที่สุด โดยมีพฤติกรรมที่เป็นรูปธรรม เช่น ตื่นนอนแต่เช้า กวาดบ้าน-ถูบ้าน จัดระเบียบ/กวาดบริเวณบ้าน
2) ส่งเสริมให้เด็กร่วมรับผิดชอบในการดูแลรักษาซอย/หมู่บ้านที่อยู่อาศัย โดยมีพฤติกรรมที่เป็นรูปธรรม เช่น ปลูกต้นไม้ (ไม้ดอก ไม้ประดับ) หน้าบ้านพร้อมดูแลรักษา กวาด/ทำความสะอาดถนนหรือที่สาธารณะรอบบ้านในรัศมี 5 เมตร เป็น กรรมการฝ่ายเยาวชนเพื่อการดูแลรักษาซอย/หมู่บ้านที่อยู่อาศัย เป็นต้น (หากสถานศึกษากำหนดคุณสมบัติของเยาวชนที่เป็นรูปธรรม ดังตัวอย่างข้างต้น พร้อมผลักดัน หรือส่งเสริมให้เกิดคุณลักษณะต่าง ๆ เหล่านั้นอย่างจริงจัง ท่านเชื่อหรือไม่ว่า “ชุมชนจะเป็นแหล่งที่น่าอยู่ในชั่วพริบตา” อีกทั้งเยาวชนจะเกิดคุณลักษณะอื่น ๆ ตามมา เช่น ความเสียสละเพื่อส่วนรวม ทักษะการจัดการ ฯลฯ)
3) จัดกิจกรรมเพื่อชี้นำทิศทางการพัฒนาหรือแก้ปัญหาให้แก่ชุมชน อาทิ ในช่วงฤดูกาลของการเสียภาษีเงินได้ประจำปี ครูคณิตศาสตร์มอบหมายให้นักเรียนสอบถามเงินได้ของพ่อแม่และนำใบคำนวณภาษี (ภ.ง.ด.91) มาคำนวณที่โรงเรียนแล้วมอบหมายให้นักเรียนนำกลับไปบ้านเพื่อหารือกับคุณพ่อ-คุณแม่เพื่อชำระภาษีต่อไป ครูวิทยาศาสตร์/ครูสังคมศึกษาให้นักเรียนร่วมปฏิบัติการรณรงค์การลดการใช้พลังงานไฟฟ้าในบ้าน ครูสุขศึกษาร่วมกับชุมนุมสุขภาพในโรงเรียนจัดทำจดหมายเตือนหรือปฏิบัติกิจกรรมรณรงค์ทำลายแหล่งยุงลายเพื่อป้องกันโรคไข้เลือดออก โรคหวัดสายพันธุ์ใหม่ หรือโรคอื่น ๆ เป็นต้น
4) สถานศึกษาเป็นแกนนำในการพัฒนาชุมชนในรัศมีที่เป็นที่ตั้งของสถานศึกษา เช่น รับผิดชอบดูแลในรัศมี 1 กิโลเมตร รอบสถานศึกษา โดยร่วมกับชุมชนอย่างจริงจังในการพัฒนาบรรยากาศ/สิ่งแวดล้อมของชุมชน ทั้งนี้ อาจปฏิบัติการผ่านกิจกรรมชุมนุมที่มีอยู่ในโรงเรียน และเน้นให้นักเรียนมีบทบาทหลักในการร่วมวางแผนพัฒนา การปฏิบัติการเช่นนี้ เสมือน “การใช้ชุมชนที่เป็นที่ตั้งของสถานศึกษา เป็นห้องปฏิบัติการทดลองประสบการณ์ชีวิตต่าง ๆ แก่ผู้เรียน” ทั้งนี้เชื่อว่า หากนักเรียนมองเห็นแนวทางการพัฒนาชุมชนที่เป็นรูปธรรม 1 ชุมชน นักเรียนเหล่านั้นจะสามารถนำประสบการณ์ไปประยุกต์ใช้ในชุมชนที่อยู่อาศัยของตนเองได้ในอนาคต อีกทั้ง โรงเรียนเองก็จะเป็นที่รักใคร่/เป็นที่พอใจของชุมชนที่เป็นที่ตั้งของโรงเรียน เป็นโรงเรียนของชุมชนอย่างแท้จริง(อนึ่งชุมชนอาจให้การสนับสนุนงบประมาณเพื่อการทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์ในส่วนนี้)
5) ประสานงานกับผู้ปกครอง หรือเครือข่ายผู้ปกครอง ให้ร่วมกันวางแผนเพื่อทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์ร่วมกันเป็นวงศ์ตระกูล โดย วางแผนเป็นรายปี พร้อมแจ้งแผนงานให้โรงเรียนทราบตั้งแต่ต้นปี การกระทำเช่นนี้ นอกจากจะเป็นการแบ่งเบาภาระของโรงเรียนในการส่งเสริมให้นักเรียนจัดทำ กิจกรรมสาธารณประโยชน์แล้ว ยังเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ในครอบครัว และส่งเสริมให้ครอบครัวไทย “มีจิตสาธารณะไปในตัวด้วย”
วัตถุประสงค์
- เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนได้คิด ริเริ่มและสร้างสรรค์กิจกรรมเพื่อสาธารณะประโยชน์ทั้งภายในสถานศึกษา และภายนอกสถานศึกษา ผ่านรูปแบบกิจกรรมที่หลากหลาย
- เพื่อให้นักเรียนเกิดความตระหนักในปัญหาสิ่งแวดล้อม และมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้วยจิตอาสา
- เพื่อสร้างนักเรียนแกนนำ อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ที่สามารถเผยแพร่ความรู้ ประสบการณ์ และสร้างเครือข่ายการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ในโรงเรียนและชุมชน โดยใช้ไอที และเทคโนโลยี
- เตรียมพร้อมสำหรับนักเรียนแกนนำ หลักสูตร จิตอาสาพระราชทาน 904 มาใช้ในกิจกรรมชุมนุมเมื่อมีการโปรดเกล้า ให้เปิดอบรมสำหรับโรงเรียน
- จัดเตรียมฝึกอบรมสมาชิคในชุมนุม เพื่อลงทะเบียนเป็น "เป็นจิตอาสาพระราชทาน เมื่อมีการเปิดรับสมัคร"
เป้าหมายด้านปริมาณ
- นักเรียนในระดับประถมศึกษา 1 ถึง 6 มีสมาชิคชุมนุม จำนวน 30 คน
- กิจกรรมชมรม(ทุกวันศุกร์) จำนวน 16 ครั้ง/ภาคเรียน
- กิจกรรมอบรมให้ความรู้จากวิทยากร จำนวน 1 ครั้ง/ภาคเรียน
- กิจกรรมพัฒนาสิ่งแวดล้อม (ภายในสถานศึกษา) จำนวน 1 ครั้ง/ภาคเรียน
- กิจกรรมเนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก 5 มิถุนายน จำนวน 1 ครั้ง/ภาคเรียน
- กิจกรรมฟื้นฟูสภาพป่าชายเลน (ภายนอกสถานศึกษา) จำนวน 1 ครั้ง/ปี
- รายงานผลการดำเนินงานตามโครงการ จำนวน 1 เล่ม/ภาคเรียน
- เผยแพร่ทางเว็บไซต์(อินเตอร์เน็ตของโรงเรียน) จำนวน 1 เว็บไซต์/ภาคเรียน
- เผยแพร่ทางเว็บไซต์(ระบบไฟล์แชริ่งภายในโรงเรียน) จำนวน 1 เว็บไซต์/ภาคเรียน
- ผลิตสื่อประชาสัมพันธ์พร้อมรณรงค์ ผ่านสื่อโซเซียลมีเดีย
ด้านคุณภาพ
- นักเรียนที่เข้าร่วมโครงการสามารถเป็นแกนนำในการให้ความรู้ความเข้าใจ สร้างความตระหนัก ปลูกจิตสำนึกให้กับนักเรียนภายในโรงเรียนและชุมชน ในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ด้านไอทีสาธารณะ
- นักเรียนภายในโรงเรียน มีความความรู้ความเข้าใจ มีความตระหนัก และมีจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติด้านไอทีสาธารณะ ด้วยจิตอาสา
ตัวชี้วัดความสำเร็จ
- นักเรียนที่เข้าร่วมโครงการ ร้อยละ 100 เป็นนักเรียนแกนนำ อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ที่สามารถเผยแพร่ความรู้ ประสบการณ์ และสร้างเครือข่ายการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ในโรงเรียนและชุมชน โดยใช้ไอทีในการจัดการสาธารณะ
- นักเรียนภายในโรงเรียน ร้อยละ 80 มีความรู้ความเข้าใจ มีความตระหนัก มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และการใช้ความรู้ความสามารถด้านไอที
กลยุทธ์ระดับองค์กร ข้อที่ 1 3
1. เร่งรัดการปฏิรูปการจัดการศึกษาโดยยึดคุณธรรมนำความรู้
3. พัฒนาคุณภาพมาตรฐานการศึกษา
มาตรฐานคุณภาพการศึกษา ข้อที่ 1 4 5 6 14 15
มาตรฐานที่ 1 ผู้เรียนมีคุณธรรม จริยธรรมและมีค่านิยมที่พึงประสงค์
มาตรฐานที่ 4 ผู้เรียนมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์มีวิจารณญาณ มีความคิดสร้างสรรค์ คิดไตร่ตรองและมีวิสัยทัศน์
มาตรฐานที่ 5 ผู้เรียนมีความรู้ และทักษะที่จำเป็นตามหลักสูตร
มาตรฐานที่ 6 ผู้เรียนมีทักษะในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง รักการเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
มาตรฐานที่ 14 สถานศึกษามีการจัดหลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
มาตรฐานที่ 15 สถานศึกษามีการจัดกิจกรรมส่งเสริมคุณภาพผู้เรียนอย่างหลากหลาย